Mobile From Advance

16 January 2008

ความแตกต่างของ ROM สองแบบ, NAND และ NOR

ก็เป็นที่รู้กันว่า ROM เป็นหน่วยความจำที่ไม่ใช้พลังงาน ไฟดับไม่หาย แต่ทำงานช้ากว่า RAM ส่วนทางด้าน RAM นั้นเขาทำงานเร็วกว่ามาก แต่ต้องใช้ไฟเลี้ยง


ก็เลยเป็นเหตุให้เราใช้ RAM สำหรับการทำงานทั่วไปของคอมพิวเตอร์ ส่วน ROM เราเอาไว้เก็บข้อมูล


Pocket PC สมัย Windows Mobile 5 ก็เช่นเดียวกันครับ ต่างกันนิดหน่อยที่ Pocket PC ไม่มี Hard disk ก็เลยใช้ ROM นี่แหละ เอาความจุเยอะๆ มาใช้แทน Hard Disk ไปด้วย


อ้อ miniSD, SD, CF ก็คือ ROM นี่เอง นะครับ


เราใช้งาน Pocket PC เปิดโปรแกรมขึ้นมา ตัวโปรแกรมจะเรียกจาก ROM มาไว้บน RAM แล้วก็ทำงาน ตอนเราฟังเพลง Pocket PC ก็จะเอาไฟล์เพลงจาก ROM ออกมาหน่อยหนึ่ง (ไม่ใช่ทั้งเพลงนะครับ) ใส่ RAM แล้วเล่นไป เล่นส่วนนั้นหมดก็ลบทิ้ง เรียกส่วนถัดไปจาก ROM อีก แล้วก็เล่นไปเรื่อยๆจนจบเพลง


Email หรือเอกสาร ก็คล้ายๆกันครับ


ก็คือ ขนาดของ RAM จะบอกกับเราว่า Pocket PC ของเราจะใช้โปรแกรมได้มากมายแค่ไหนในเวลาหนึ่งๆ ส่วน ROM จะบอกกับเราว่า เราเก็บอะไรต่อมิอะไรได้มากแค่ไหน


ปกติ Windows Mobile 5 Pocket PC มักจะมี RAM มา 64 MByte นะครับ มีบางรุ่นเหมือนกัน ที่มี RAM มาแค่ 32 MByte ซึ่งก็พอใช้งานเหมือนกัน แต่จะใช้กับ ROM ชนิด NOR ซึ่งเดี๋ยวเราจะมีคุยกันเรื่อง NOR อีกทีนะครับ


ส่วนรุ่นที่จะมี RAM มากถึง 128 MByte อย่างสมัยก่อนนั้น ยากครับ ต้องเป็นรุ่นสำหรับนักเล่นเครื่องแรงตัวจริง เพราะ RAM ยิ่งมาก ยิ่งเปลืองไฟครับ


เปลืองไฟ ก็ใช้แบตเตอรีได้ไม่นานไงครับ


Windows Mobile 5 Pocket PC พื้นๆ ใช้ ROM สัก 64 MByte ก็เพียงพอครับ เพราะตังระบบปฏิบัติการเขาจะกินที่ไปสัก 32 MByte เหลือให้เราใช้งานอยู่ 32 MByte


แต่ถ้าเป็น Pocket PC Phone เรามักจะเจอเอา ROM เข้าไป 128 MByte นะครับ เพราะความเป็นโทรศัพท์ก็เลยต้องมีเครื่องไม่เครื่องมือเพิ่มเติม กิน ROM มากขึ้นไปอีก จน 64 MByte เอาไม่อยู่ ถึงเอาอยู่ก็ไม่เหลือที่ไว้ใช้งานอื่นครับ


ส่วนจะเหลือเท่าไหร่ ก็แล้วแต่ผู้ผลิตครับ ว่าเขาจะใส่ลูกเล่นเข้าไปมากน้อยแค่ไหน ลูกเล่นเยอะ ก็เหลือให้เราน้อยหน่อย หรือต้องไปเพิ่ม ROM ชดเชยเอา


การมี ROM มากขึ้น ไม่มีผลเสียอะไรนะครับ ไม่กินไฟเพิ่ม ไม่กินกำลังเครื่องเพิ่ม เสียอย่างเดียวคือต้นทุนเพิ่ม


เอาล่ะครับ ทีนี้เรามาดูกันว่า ROM สองแบบ คือ NAND กับ NOR ว่าต่างกันยังไง


เริ่มจาก โดยทั่วๆไปแล้ว ทั้งสองแบบ ไม่ต่างกัน นะครับ ใช้งานได้แบบเดียวกันเกือบทั้งหมด


สิ่งที่แตกต่างอันแรก คือ


NOR อ่านได้เร็วกว่า แต่เขียนได้ช้ากว่า


NAND อ่านได้ช้ากว่า แต่เขียนได้เร็วกว่า


แต่ทั้งคู่ยังช้ากว่า RAM อยู่ดี นะครับ


สิ่งที่แตกต่างกันสำคัญที่สุดสำหรับทั้งสองแบบคือ NOR สามารถใช้ทำงานโปรแกรมได้ โดยไม่ต้องอ่านลงไปใน RAM ก่อนครับ อันนี้เราเรียกกันว่า Execute In Place (XIP) ครับ


นั่นคือ สำหรับ Pocket PC บางแบบ หากเขาใช้ ROM แบบ NOR ก็จะไม่จำเป็นต้องมี RAM มากนักก็ได้ครับ เอาแค่ 32 MByte ก็ยังได้ เพราะเขาไม่ต้องเอามาใช้กับโปรแกรม เอาไว้บริหารข้อมูลอย่างเดียว เช่นฟังเพลง ดูรูป อ่านเอกสาร


นั่นคือ Pocket PC ที่ใช้ ROM แบบ NOR สามารถมี RAM น้อยกว่าได้ ซึ่งนอกจากจะกินไฟน้อยกว่าแล้ว ยังเรียกใช้โปรแกรมได้เร็วกว่าด้วยครับ เพราะไม่ต้องเสียเวลาเรียกมาไว้ที่ RAM ก่อนแล้วค่อยทำงาน แต่เรียกจาก NOR ROM ขึ้นมาทำงานได้เลย


อะไรจะดีขนาดนั้น แต่ NOR ROM นั้น แพงกว่า NAND ROM ครับ ก็เลยอาจจะใช้วิธีผสมผสาน คือ


มี 32 MByte RAM ไว้บริหารงานข้อมูล


มี 64 MByte NOR ROM สำหรับติดตั้งและใข้งานโปรแกรม


แล้วก็มี 64 MByte NAND ROM สำหรับเก็บข้อมูล


ดีด้วยครับ เพราะ NAND ROM เขียนได้เร็ว เหมาะกับการ Update ข้อมูล ส่วนด้านโปรแกรมนั้น เขียนช้าหน่อยไม่เป็นไร เพราะเราไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมกันใหม่ทุกวัน


ก็คือเราอาจจะได้เห็น Pocket PC ที่มี Spec ดูไม่หวือหว่า 32 MByte RAM / 128 MByte ROM แต่ใช้ ROM แบบผสมผสาน แบบนี้ทำงานเร็วกว่า 64 MByte RAM / 128 MByte ROM ที่ใช้ NAND ROM เพียงอย่างเดียวด้วยซ้ำครับ


คือ ROM ต่างกัน ทำให้เครื่องเก่งต่างกันได้มากครับ


อ้อพวก microSD, miniSD, SD, CF เป็น NAND ROM ครับ


ต่อไปนี้ เวลาดูสเปคเครื่อง ลองสังเกตคำว่า NOR, NAND ด้วยนะครับ

No comments: