Mobile From Advance

01 May 2008

ดีแทคซื้อครีเอเทค ต่อยอด 3G

ข่าว: ไทยโพสต์
29 เมษายน 2551
ดีแทคเล็งพบ "สถิตย์" สัปดาห์นี้หวังเร่งขอใบอนุญาตนำเข้าอุปกรณ์ 3 จี เชื่อไม่เสียเปรียบเอไอเอส ล่าสุดเทกโอเวอร์ 3 บริษัทหวังต่อยอดคอนเทนต์มือถือ ขณะที่ลูกค้าและรายได้ไตรมาส 1 พุ่ง
นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้ตนจะเข้าพบนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บมจ.กสท โทรคมนาคม เพื่อให้เร่งดำเนินการขอใบอนุญาต (ไลเซนส์) นำเข้าอุปกรณ์ (HSPA) เพื่อขอทดสอบระบบ 3 จี บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ซึ่งประมาณเดือน พ.ค.นี้ดีแทคก็น่าจะได้รับไลเซนส์ดังกล่าว และสามารถพัฒนาเพื่อให้บริการ 3 จี ได้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้
สำหรับกรณีที่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ที่จะเปิดบริการ 3 จี ใน จ.เชียงใหม่ ช่วงต้นเดือนนี้ ตนยังเชื่อว่าดีแทคยังไม่เสียเปรียบเอไอเอส เนื่องจากการเปิด 3 จีของเอไอเอสเป็นเพียงการทดสอบระบบเท่านั้น ไม่ได้มีการดำเนินการในรูปแบบเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ จากการให้บริการ 3 จีเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ดีแทคจึงได้เข้าไปซื้อกิจการ 3 แห่ง ประกอบด้วย 1.คลื่นวิทยุ FAT Radio 104.5 2.บริษัท เพย์สบาย จำกัด และ 3.บริษัท เครีเอเทค จำกัด ด้วยงบประมาณ 150 ล้านบาท เพื่อพัฒนาทำคอนเทนต์ด้านต่างๆ ทั้งบรอดแคสโมบาย อินเตอร์เน็ต คอนเทนต์บนโทรศัพท์มือถือแล้ว สำหรับเงินลงทุนด้านโครงข่ายเพื่ออัพเกรดระบบเป็น 3 จี น่าจะใช้เงินลงทุน 5,000 ล้านบาท โดยถ้าหากดีแทคได้เปิดบริการ 3 จี คาดว่ารายได้จากบริการเสริมจะเพิ่มเป็น 20%
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ดีแทคได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 พบจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 884,000 ราย ดันยอดรวมลูกค้าทั้งหมดขึ้นเป็น 16.7 ล้านคน ส่วนรายได้รวมในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 9.5% หรือเท่ากับ 17.7 พันล้านบาท อันเป็นผลมาจากการเติบโตของฐานลูกค้าและการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งการตลาด.

Pocket PC Thai dot Com: Createch Software คือบริษัทในกลุ่มเดียวกับ Orisis Wireless ผู้พัฒนาระบบภาษาไทยรายหนึ่งบน Pocket PC และ Symbian
สื่อ + บริการชำระเงินออนไลน์ + ผู้พัฒนาระบบบน Smartphone ทำให้มองเห็นภาพของเนื้อหาและบริการบนโทรศัพท์ที่จะหลากหลายมากขึ้น ต้อนรับบริการ 3G และจะตัดสินอนาคตของ Smartphone ว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์ได้มากแค่ไหน

No comments: